คนเราจะมีช่วงเวลาที่ต้องเอาอนาคต
เป็นเดิมพันอยู่หลายครั้งในชีวิต
ในช่วงเวลาเช่นนั้น เราจะยอมแพ้
หรือถอดใจไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เพราะนั่นคือช่วงเวลาชี้ขาดอนาคต"
โคโมริ ชิเงทากะ
อดีตประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท ฟูจิฟิล์ม โฮลดิงส์ คอร์ปอเรชัน

หากบริษัทขนาดใหญ่แห่งอุตสาหกรรมภาพถ่ายอย่างโกดัก ต้องมีอันล้มหายตายจากไปจากการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ยุคดิจิทัล

หนังสือเล่มนี้จะตอบคำถามสำคัญที่สุดว่า ทำไมกิจการอย่างฟูจิฟิล์มซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ยังคงเติบใหญ่และสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

อะไรคือความต่างของการรับมือสถานการณ์ดิสรัปชันครั้งสำคัญของโลก

เราเรียนรู้มามากจากกรณีศึกษาสั้นๆ ว่า ทำไมโกดักถึงปรับตัวไม่ทันจนนำไปสู่การล้มละลาย แต่ยังไม่เคยมีสักครั้งที่เราจะได้เรียนรู้อย่างลุ่มลึกว่า ฟูจิฟิล์มบริหารงานอย่างไรในช่วงวิกฤติ จึงสามารถพลิกให้เป็นโอกาสในการสร้างบริษัทขึ้นมาใหม่

ทั้งหมดนี้ คือหัวใจ คือจิตวิญญาณ คือความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ของจิตวิญญาณบริหารผ่านวิกฤติ ที่คุณโคโมริ ชิเงทากะ ถ่ายทอดออกมาเป็นคัมภีร์ที่ทุกคนควรมีโอกาสได้อ่าน

หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ทฤษฎีสวยหรู
ของนักสู้ผู้ไม่เคยลงสนาม
หากคือปัญญาญาณ
ของนักรบที่ผ่านสมรภูมิการกอบกู้
และก่อสร้างกิจการขึ้นมาใหม่อย่างโชกโชน
จนเกิดสัมฤทธิผล ก่อนจะกลั่นออกมา
เป็นบทเรียนบอกกล่าวแก่อนุชนรุ่นหลัง

ถ้าคุณเป็นผู้บริหารธุรกิจไม่ว่าขนาดใด
ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัทผู้กำลังไต่เต้า
นี่คือเรื่องเล่าของพนักงานธรรมดา
ผู้นำพาตัวเองขึ้นสู่ตำแหน่งประธานบริษัท
โดยไม่มีเส้นสาย และได้กลายเป็นผู้รักษา
และสร้างสรรค์บริษัทให้แข่งขันได้ในโลกยุคใหม่

นี่คือ กรณีศึกษาที่เต็มไปด้วยเคล็ดวิชามากมาย
ซึ่งผู้เขียนได้ถ่ายทอดไว้อย่างเป็นรูปธรรม
นี่คือหนังสืออันล้ำค่าและงามสง่าเช่นเดียวกับคัมภีร์
นี่คือแสงไฟยามราตรีในคืนอันมืดมิด
นี่คือเสียงระฆังที่ดังมาเตือนสติ
ให้เราเตรียมตั้งรับวิกฤติล่วงหน้า

ในยามค่ำที่ท่านไม่สามารถข่มตาหลับ
เนื่องจากจำต้องขับเคี่ยวกับวิกฤติรอบด้าน
หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีการต่างๆ
ที่ช่วยให้ท่านอ่านอนาคต ตั้งหลักคิด วางแผนชีวิต
และลงมือปฏิบัติให้เกิดมรรคเกิดผลได้